ความต้องการและแรงจูงใจ
นักจิตวิทยากลุ่มจิตวิเคราะห์ที่มีชื่อเสียงได้มีความคิดในเรื่องความต้องการต่าง ๆ กัน ดังนี้
แนวความคิดของ อิริค ฟรอมม์ อธิบายว่า มนุษย์มีความต้องการอยู่ 6 ประการ
1. ความต้องการมีความสัมพันธ์และอยู่ร่วมกับคนอื่น
2. ความต้องการทำในสิ่งที่ดีกว่าและเป็นผู้มีประสิทธิภาพ
3. ความต้องการสร้างรากฐานที่มั่นคงและมีสิ่งยึดเหนี่ยว ต้องการความรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย ต้องการความผูกพัน
4. ความต้องการมีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง ต้องการความเป็นตัวของตัวเอง
5. ความต้องการเข้าใจธรรมชาติ เข้าใจสิ่งแวดล้อมและสังคมอย่างชัดเจน และต้องการมีชีวิตอยู่มีความหมายและมีความรัก
6. ความต้องการแสวงหาสิ่งตื่นเต้นและสิ่งเร้าต่าง ๆ ต้องการสิ่งแวดล้อมที่ท้าทาย ความสนใจและสิ่งเร้าที่ทำให้กระตือรือร้นในการร่วมทำกิจกรรมต่าง ๆ และการดำเนินชีวิต
ธรรมชาติของมนุษย์ในแนวความคิดของนักสังคมวิทยา
มรว. สมพร สุทัศนีย์ (2537 : 43 - 44) ได้กล่าว ไว้ว่ามนุษย์คือสัตว์สังคมที่ต้องอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มมีการติดต่อสัมพันธ์กัน การอยู่รวมกันอย่างสงบสุขนั้น จำเป็นต้องมีกฎเกณฑ์หรือกติกาทางสังคมเพื่อเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมให้เป็นไปในทิศทางที่เหมาะสม กฎเกณฑ์ดังกล่าวเรียกว่า ปทัสถาน (Norms) ซึ่งจำแนกได้ 3 ประเภท คือ วิถีประชา (Folkways) จารีตประเพณี (Mores) และกฎหมาย (Laws)
1. กลุ่มญาติพี่น้อง สมาชิกในกลุ่มรวมตัวกันจากความสัมพันธ์ทางสายเลือด บุคคลในกลุ่มนี้มีความใกล้ชิด สนิทสนมมีความผูกพันกันมากจะช่วยเหลือเกื้อกูลกันในระดับสูง กลุ่มพวกนี้ได้แก่ บุคคลที่เกี่ยวข้องเป็นเครือญาติกัน รวมทั้งคู่สมรส
2. กลุ่มเพื่อนบ้าน กลุ่มเพื่อนบ้านใกล้ชิด สนิทสนม มีการติดต่อสัมพันธ์กันฉันท์มิตรให้ความช่วยเหลือโดยมิได้หวังผลตอบแทน ส่วนกลุ่มเพื่อนบ้านเช่น กลุ่มเพื่อนฝูงโรงเรียนเก่า รุ่นพี่รุ่นน้อง รุ่นเดียวกัน ซึ่งเป็นกลุ่มที่มีความสนิทสนมกันมีความสัมพันธ์แบบถือวิสาสะกันได้มากพอสมควร
3. กลุ่มเพื่อนร่วมงาน กลุ่มนี้เป้นกลุ่มไม่เป็นทางการ ที่มีความใกล้ชิดสนิทสนมกันมาก เพราะบุคคลส่วนใหญ่ใช้เวลาในที่ทำงาน บุคคลในกลุ่มนี้จึงมีความสัมพันธ์แบบช่วยเหลือกัน
4. กลุ่มความสนใจ กลุ่มความสนใจเป็นกลุ่มที่เกิดขึ้นจากบุคคลมีความสนใจคล้าย ๆ กัน วัยรุ่น กลุ่มทางการเมือง กลุ่มทางเศรษฐกิจ กลุ่มนักเล่นกล้วยไม้ กลุ่มซุบซิบนินทา
สำหรับทฤษฎีองค์การแบบต่าง ๆ มีคติฐาน (Assumptions) เกี่ยวกับธรรมชาติของมนุษย์ดังนี้
1. ทฤษฎีองค์การแบบคลาสสิคหรือทฤษฎีองค์การแบบดั้งเดิม
2. ทฤษฎีองค์การแนวมนุษย์สัมพันธ์
3. ทฤษฎีองค์การเน้นทรัพยากรมนุษย์
ธรรมชาติของมนุษย์ตามแนวทฤษฎีการจูงใจในการบริหาร
1. ทฤษฎีความต้องการของมาสโลว์ Maslow ได้เสนอทฤษฎีแรงจูงใจซึ่งอธิบายถึงลำดับขั้นตอนความต้องการ (Hierarchy of Needs) ซึ่งเป็นที่มาของแรงจูงใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการตอบสนองย่อมมีผลกระทบต่อพฤติกรรม Maslow กล่าวถึงความต้องการของมนุษย์ว่าจะเป็นไปตามลำดับขั้นตอนและความต้องการในรำดับต่ำจะต้องได้รับความพึงพอใจอย่างมากก่อนที่ความต้องการในลำดับต่อไปจะจูงใจหรือกระตุ้นพฤติกรรมตามความต้องการในอันดับต่อมา
ลำดับขั้นความต้องการของมาสโลว์มีดังนี้
ขั้น 1 ความต้องการทางร่างกาย เป็นความต้องการพื้นฐานของมนุษย์ เช่น อาหาร น้ำ อากาศ การพักผ่อน ที่อยู่อาศัย
ขั้น 2 ความต้องการความปลอดภัยในชีวิต คือ ความต้องการความปลอดภัยด้านร่างกายและจิตใจ ต้องการความมั่นคงในชีวิตไม่ว่าจะเป็นอาชีพหรือการทำงาน
ขั้น 3 ความต้องการความรักและความเป็นเจ้าของ คือ ต้องการความรัก ความอบอุ่น ความเป็นมิตรจากบุคคลอื่น
ขั้น 4 ความต้องการได้รับการยกย่องสรรเสริญ ชื่อเสียง เป็นการต้องการยอมรับจากบุคลอื่น การมีเกียรติ การมีชื่อเสียงในสังคม อยากมีตำแหน่ง มีอำนาจ เป็นต้น
ขั้น 5 ความต้องการความสำเร็จ หรือต้องการตระหนักในตน เป็นการต้องการความสำเร็จ สมหวังในชีวิตตามที่บุคคลนั้นปรารถนา เช่น ต้องการขึ้นสู่ตำแหน่งสูง หรือต้องการสร้างสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ในสังคม
2. ทฤษฎีความต้องการของลัมคินส์ (Lumking) ลัมคินส์ได้แบ่งความต้องการของมนุษย์ออกเป็น 5 ประการ คือ
1.1 ความต้องการอยากรู้อยากเห็น
1.2 ความต้องการมีศักดิ์ศรีในตนเอง
1.3 ความต้องการการยอมรับจากสังคม
1.4 ความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่รอด
1.5 ความต้องการความสำเร็จในชีวิต
“ มนุษย์ต้องการมีชีวิตรอด ” “ ต้องการการยอมรับจากสังคม ”
3. ทฤษฎีความต้องการ ERG. Clayton Aiderfer *ความต้องการดำรงอยู่
*ความต้องการความสัมพันธ์
*ความต้องการการเจริญเติบโต
*ความต้องการความสัมพันธ์
*ความต้องการการเจริญเติบโต
ตามทฤษฎี ERG. ความต้องการการดำรงอยู่จะเป็นความต้องการระดับต่ำสูงความต้องการเหล่านี้จะรวมความต้องการทางร่างกาย และความต้องการความปลอดภัย Maslow เข้าไว้ ความต้องการความสัมพันธ์จะรวมความต้องการทางสังคมและความต้องการการมีเกียรติยศชื่อเสียงของ Maslow เข้าไว้ และความต้องการการเจริญเติบโตจะเป้นความต้องการระดับสูงสุดภายในลำดับความต้องการของ Alderfer
4. ทฤษฎีจูงใจและธำรงรักษา Frederick Herzberg
ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจูงใจคนในการทำงาน เรียกว่า คนเรามีความต้องการที่แยกออกจากกัน โดยอิสระอยู่ 2 ประเภท และแต่ละประเภทมีผลต่อพฤติกรรมของคน ในทางที่ต่างกัน
ได้เสนอทฤษฎีเกี่ยวกับการจูงใจคนในการทำงาน เรียกว่า คนเรามีความต้องการที่แยกออกจากกัน โดยอิสระอยู่ 2 ประเภท และแต่ละประเภทมีผลต่อพฤติกรรมของคน ในทางที่ต่างกัน
4.1 ปัจจัยที่จะนำไปสู่ความพึงพอใจในการทำงานหรือปัจจัยจูงใจ
- ลักษณะงาน
- ความก้าวหน้า
- การยอมรับนับถือ
- ความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้น
- สัมฤทธิผลของงาน
- ความเจริญเติบโตขององค์การ
4.2 ปัจจัยที่ป้องกันการเกิดความไม่พึงพอใจในการทำงาน หรือปัจจัยอนามัย หรือปัจจัยธำรงรักษา ได้แก่
- สภาพการทำงาน
- ผลตอบแทน
- การนิเทศงาน
- สถานภาพตำแหน่ง
- นโยบายขององค์การและการบริหารงาน
- ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล
ในแง่การบริหาร ผู้บริหารจะต้องหมั่นปรับปรุงและเสริมสร้างปัจจัยที่ป้องกันการเกิดความไมพึงพอใจในการทำงาน ให้อยู่ในสภาพที่เหมาะสมที่จะส่งเสริมความพึงพอใจในการปฏิบัติงานของบุคลากร
5. ทฤษฎีจูงใจในการบริหารของ Douglas
ของมนุษย์ตามแนวทฤษฎี X และทฤษฎี Y ไว้ดังนี้
1. Theory – X เชื่อว่ามนุษย์มีลักษณะดังนี้
1.1 มนุษย์มีความเกียจคร้าน ไม่ชอบทำงาน มักจะหลบเลี่ยงการทำงานเมื่อมีโอกาส ดังนั้นจึงต้องจูงใจด้วยการบังคับควบคุม ลงโทษ ขู่ เพื่อให้เกิดความเกรงกลัว
1.2 มนุษย์จะชอบเป็นผู้ตาม ชอบรับคำสั่งจะพยายามหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบ มีความทะเยอทะยานน้อย แต่ต้องการความมั่นคงในการทำงาน
2. Theory – Y เชื่อว่ามนุษย์มีลักษณะดังนี้
2.1 มนุษย์มีความรักงาน จะทำงานด้วยความสุข การใช้แรงกายและสมองในการทำงาน ก็อาจทำให้เกิดความเพลิดเพลินหรือพึงพอใจ
2.2 มนุษย์จะมีการควบคุมตนเองในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย การบริหารงานด้วยวิธีบังคับ ลงโทษ ข่มขู่ ไม่ใช่วิธีที่ถูกต้อง เพราะคนเราต้องรับผิดชอบในงานที่เขาทำและสามารถควบคุมตนเองได้
2.3 คนเรามิได้จูงใจได้ด้วยเงินเสมอไปแต่อย่างเดียว แต่จะเต็มใจทำงานหรือจูงใจได้ด้วยการตอบสนองความต้องการของเขาด้านสังคม การยอมรับนับถือและความสมหวังในชีวิต
2.4 มนุษย์จะมีความสนใจในการเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิด ทักษะการทำงานตลอดจนความคิดริเริ่มและสร้างสรรค์ในการทำงาน
2.5 มนุษย์ปรารถนาความก้าวหน้า มีความสามารถที่จะปฏิบัติงาน และพร้อมที่จะรับผิดชอบเพื่อให้องค์การบรรลุวัตถุประสงค์ ดังนั้นองค์การหรือฝ่ายบริหารควรช่วยกระตุ้นให้พนักงานตระหนักถึงคุณสมบัติที่เขามีอยู่และเปิดโอกาสให้เขาแสดงความสามารถนั้น และพยายามทำให้ความปรารถนาหรือความต้องการของบุคลากรสอดคล้องกับความต้องการขององค์การ
อ้างอิง
อ.จิตติมา พลศักดิ์
Do you realize there is a 12 word phrase you can say to your crush... that will trigger intense emotions of love and impulsive attraction for you buried within his heart?
ตอบลบThat's because hidden in these 12 words is a "secret signal" that triggers a man's instinct to love, idolize and look after you with his entire heart...
12 Words That Fuel A Man's Love Impulse
This instinct is so built-in to a man's brain that it will make him try harder than before to take care of you.
Matter of fact, triggering this all-powerful instinct is absolutely essential to having the best possible relationship with your man that once you send your man a "Secret Signal"...
...You will instantly notice him open his mind and soul for you in a way he never experienced before and he will distinguish you as the only woman in the galaxy who has ever truly fascinated him.