วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง

การสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
ความเชื่อมั่นในตนเอง
                ความเชื่อมั่นในตนเอง หมายถึง
       ความแน่ใจหรือมั่นใจหรือความกล้าที่จะกระทำสิ่งต่าง ๆ ให้สำเร็จลุล่วงตามที่กำหนดไว้ หรือตั้งใจไว้แม้จะมีเหตุการณ์ หรือสิ่งอื่นใดมาเป็นอุปสรรค  ก็ไม่ท้อถอย แต่ยังคงตั้งใจกระทำสิ่งนั้น ๆ ต่อไป จนกว่าจะประสบความสำเร็จ 

                พื้นฐานในการขาดความเชื่อมั่นในตนเอง
                                1. การขาดความภูมิใจในความเป็นมนุษย์ ตั้งแต่เด็กๆ อาจจะมาจากการอบรมเลี้ยงดูที่ไม่ถูกต้องเช่น พ่อแม่ติชมลูกไม่ถูกกาลเทศะ ชมมากไปก็ไม่ดี เด็กไม่ภูมิใจ ตำหนิมากไปก็ลืมมองความดีของลูก พยายามหาแต่ข้อไม่ดีมาตำหนิ เกิดการหมดกำลังใจหมดความภูมิใจ เมื่อเติบโตก็จะทำให้กลายเป็นคนขาดความเชื่อมั่น ความรักในตนเอง
                                2. การคิดดูถูกตนเองว่าเป็นคนไม่ดี ไม่เก่ง ซึ่งมาจากนิสัยที่ชอบโทษตัวเอง ประจานตัวเอง และ ลงโทษตัวเองตลอดเวลา เมื่อมีเหตุการณ์ผิดพลาด หรือ ไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต
                                3. มีลักษณะของการถูกข่มขู่มาตั่งแต่เด็กๆ ทำให้ไม่มีโอกาสได้แสดงออก หวาดกลัว การโดนว่า รังแก ทั้งทางตรง และ ทางอ้อม ย่อมส่งผลให้ผู้นั้น มีอาการไม่มั่นใจ และ ไม่เชื่อมั่นในตนเองได้
                                4. มีนิสัยชอบเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น คิดว่า คนอื่น เก่งกว่า สวยกว่า หล่อกว่า หรือ ดีกว่า มักจะมองหาปมด้อยแก่ตนเอง เพื่อเปรียบเทียบกับคนอื่นๆอยู่เสมอ นานๆเข้ากลายเป็นคนชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น และ ขี้อิจฉา
                                5. การที่มีข้อ หรือ ปมด้อย ที่ตนเองคิดว่า คนอื่นจะรู้หรือสังเกตเห็นได้ ทำให้ไม่สบายใจ หรือไม่มั่นใจ เช่น คิดว่า ตัวเองผิวคล้ำดำ ไม่สวย คนอื่นจะต้องเห็นว่าตัวเองตัวดำ ดูตลก ทั้งๆที่คนอื่นไม่คิด ตัวเองก็จะคิดไปก่อน ทำให้หมดความมั่นใจในตนเองได้

                หลักในการสร้างความเชื่อมั่นในตนเอง
1.             การเตรียมตัว  ความประหม่าในการปริมาณพอเหมาะนั้นมีประโยชน์ เพราะเป็น
สัญชาติญาณทางธรรมชาติในการเตรียมตัวเราให้พร้อม เพื่อเผชิญกับการท้าทายอันไม่คุ้นเคย การเตรียมข้อมูล จะต้องวิเคราะห์เจาะลึกในเรื่องที่จะพูด ศึกษาค้นคว้าข้อมูล การเตรียมการพูด ต้องทุ่มเท มีความใส่ใจกับจุดใหญ่ใจความสำคัญของหัวข้อนั้น และต้องมีทัศนคติที่ถูกต้อง  
                2.บุคลิกภาพที่ดี  หมายถึง บุคลิกภาพที่น่าประทับใจเริ่มตั้งแต่ยังไม่เห็นตัวกัน เพราะอีกฝ่ายมักคาดหวังเอาจากประวัติความเป็นมาของเรา เมื่อเจอหน้ากันภายใน 5 วินาทีแรกเราก็จะถูกประเมินแล้ว่าเป็นคนเช่นไรจากบุคลิกภาพภายนอก ซึ่งจะเป็นสิ่งที่สร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเห็น ไม่ว่าจะสุขภาพร่างกาย หน้าตา ทรงผม เสื้อผ้า แต่งตัวเหมาะสมกับกาลเทศะ ลีลาท่าทางต่าง ๆ หากมองกันลงไปลึก ๆ แล้ว ผู้ที่มีความเชื่อมั่นในตนเอง เริ่มตนขึ้นจากภายในทั้งสิ้น ไม่ว่าจะเป็นทัศนคติ ความคิดที่มีต่อตนเอง ต่อสังคม      3.รู้จักตนเอง คือการเรียนรู้ตนเอง หาจุดดีจุดด้อยของตนเอง เพื่อพยายามหาทางแก้ไขข้อบกพร่อง และส่งเสริมจุดเด่นของเรา การรู้จักตนเอง ไม่เพียงรู้จักแต่นิสัยที่แท้จริงของเรา แต่เราต้องรู้ให้ลึกว่า อะไรที่ทำให้เรารู้สึกดี อะไรที่ทำให้เรารู้สึกแย่ และอวัยวะส่วนไหนของเราดูดี ส่วนไหนที่เราไม่ค่อยมั่นใจ
                4.พิ่มพูนทักษะที่จำเป็ จะต้องทราบจุดด้อยของตัวเราก่อนว่าจะต้องเรียนรู้สิ่งใดเพิ่มเติม เพื่อแก้ไข และสร้างความมั่นใจให้แก่ตนเอง เราจำเป็นต้องศึกษา หาความรู้ ฝึกฝน ให้รู้และเชี่ยวชาญ เพราะการเรียนรู้มากก็ยิ่งมีความรู้มาก มีความรู้มากก็มีคนให้คำแนะนำปรึกษามากขึ้น
                5.คิดในทางบวก สิ่งที่ผู้อื่นพูดอาจจะเป็นข้อมูลหรือเป็นประโยชน์กับเราได้ ถ้าเรามองในด้านดี การเป็นคนคิดในทางบวก เป็นการป้องกันอันตรายทางความคิดที่จะเกิดกับตัวเราในอนาคต ถ้าเรามองโลกในแง่ร้าย ทุกอย่างรอบตัวก็ดูจะแย่ และอาจจะหมดกำลังใจได้โดยง่าย
                6.รู้จักให้กำลังใจ เวลาที่จะทำอะไรดี ๆ สักครั้ง แทนที่จะนั่งรอให้ใครมาชื่นชม ควรรู้จักที่จะให้กำลังใจและควรชมตัวเองก่อน มันจะเป็นความรู้สึกที่ดีมาก และจะย้ำความเชื่อมั่นในตนเอง แต่ก็ต้องหมั่นรู้สึกถึงความดีที่บุคคลรายรอบตัวคุณเขาทำด้วย แม้ใครจะไม่เห็นแต่เราเห็น อย่าลังเลที่จะแสดงความชื่นชมกับสิ่งดี ๆ ที่เขาทำ
                7.นิยมความสำเร็จ การเป็นคนนิยมความสำเร็จ จะทำให้เราตั้งใจทำสิ่งต่างๆด้วยความตั้งใจ และ อยากทำให้ดีที่สุดนั่นเองเชื้อไฟที่ดีที่สุดในการทำให้ไฟในชีวิตลุกโชนมากขึ้น ก็คือ การประสบความสำเร็จในการทำสิ่งต่างๆ แม้นกระทั่งคำชมเชยจากหัวหน้า เพื่อน หรือ คนในครอบครัว ก็สามารถทำให้เรามีความสุข และ มีพลังในการทำสิ่งต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม การติดในคำชื่นชม ก็ไม่เป็นการดีต่อตนเอง ดังนั้น จงฉลาดเลือกการได้รับคำชมจากคนที่มีคุณค่า และ ดีพอเท่านั้น เพราะ ความจริงแล้ว ถ้าเราทำอะไรสำเร็จ แม้นจะเป็นเรื่องเล็กๆ เช่น การแก้นิสัยเกียจคร้านของตนเองได้ เราเองก็จะภูมิใจในตนเองได้โดยไม่ต้องให้คนอื่นชื่นชมก็ได้ และ เราก็สามารถมีกำลังใจ ทำการใหญ่ๆ ให้สำเร็จได้ง่ายมากขึ้น
                8.เป็นคนชอบการแก้ไขมากกว่าบ่น หรือ ท้อแท้ เรียนรู้ความจริงว่า ชีวิตย่อมมีอุปสรรค ซึ่งเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งที่จะทำให้สิ่งต่างๆแตกต่างกันออกไป ก็คือ ใครเรียนรู้ที่จะแก้ไขมากกว่าท้อแท้ รวมทั้งปัญหาบางอย่างก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ก็ไม่ควรนำมาทำให้เป็นปัญหาใหญ่ของตนเอง เช่น เราอาจจะเป็นคนตัวเล็ก ผิวคล้ำ เราก็ไม่ควรนำมาเป็นปมด้อย หรือ ลดความเชื่อมั่นในตนเอง เพราะ ถ้าเราทำหน้าที่ต่างๆ รวมทั้ง ขยัน พูดจาดี สิ่งต่างๆเหล่านั้น ก็ไม่เป็นอุปสรรคทำให้ใครๆ มองเห็นว่าเป็นปมด้อย หรือ ทำให้เราไร้ค่าในสายตาใคร
                9.เห็นคุณค่าของตนเอง และ สิ่งที่ตนเองมีมีคนมากมาย ที่ชอบมองหาสิ่งที่อยู่ห่างตนออกไป โดยลืมมองหาสิ่งที่มีค่าของตนเอง ซึ่งบางทีคนอื่นอาจจะเห็นว่าเรามีดี มีอะไรที่มีคุณค่าในตนเอง แต่ตัวเราเองกลับมองไม่เห็นคุณค่าในสิ่งนั้น
                10.ฝึกจิตใจให้สงบ และ อารมณ์เย็น เรียนรู้ที่จะเป็นคนที่สงบเมื่อถึงคราวต้องสงบ และ กระตือรือร้นเมื่อต้องกระตือรือร้น การฝึกสมาธิ หรือ การสร้างพลังใจให้แก่ตนเอง โดยการสร้างความมั่นคงทางอารมณ์ภายใน ย่อมส่งผลให้เรามีความเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น
                11.รู้จักวางตัวรู้จักการวางตัวในแต่ละสถานการณ์ แต่ละบุคคล ได้อย่างดีและเหมาะสม จะยิ่งทำให้เราเป็นผู้มีเสน่ห์ และ มีมารยาท เรื่องนี้ สามารถฝึกกันได้ ซึ่งถ้าต้องเข้าสังคมระดับสูง มารยาทการทานอาหาร อาจต้องเป็นพิธีการมากยิ่งขึ้น ซึ่งเรื่องนี้ เราอาจจำเป็นต้องอาศัยการฝึกอบรมเพิ่มเติมแต่ถ้าเป็นทั่วไปๆ เราก็สามารถใช้หลัก ใจเขาใจเรา คือ การคิดก่อนถาม และ ฝึกเป็นคนเข้าหา มีมารยาท รู้จักการให้ความเคารพแก่ผู้อาวุโส และ เป็นนักฟังที่ดี รับรองได้ว่า เราก็จะจัดได้ว่า เป็นคนที่วางตัวเป็นคนหนึ่งทีเดียว
                12.พึ่งตนเองได้   " อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ " หมั่นฝึกตนช่วยเหลือตนเองให้มากที่สุด
ก่อนจะร้องขอให้ผู้อื่นช่วย เพราะหากเราไม่ช่วยตนเองแล้วยากที่ใครจะมาช่วยเรา และจะเป็นการตัดโอกาสและความก้าวหน้าของตนเองอย่างน่าเสียดาย เพราะไม่ได้พัฒนาความสามารถอย่างเต็มที่ ดังนั้นจงช่วยตนเองอย่างเต็มความสามารถ แล้วคุณจะพบว่าคุณสามารถทำได้ด้วยตนเอง

                13.กำจัดความกลัว  ความกลัวเป็นอุปสรรค์ต่อความสำเร็จและทำให้ไม่กล้าทำอะไร เพราะกลัวว่าจะทำได้ไม่ดีจะผิดพลาดแต่คนที่ไม่เคยทำอะไรเลย ก็จะไม่มีความผิดพลาดเกิดขึ้น ส่วนคนที่ทำงาน โอกาสสำเร็จและผิดพลาดก็ย่อมจะมีบ้างเป็นธรรมดาแต่หากทำดีที่สุดแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นก็ต้องยอมรับและไม่กลัวที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น พึงคิดเสมอว่า " ทำไม่ดี ไม่มี มีแต่ยังไม่ได้ทำหรือยังทำดีไม่มากพอ " การลงมือทำเป็นเรื่องสำคัญ อย่าได้กลัวที่จะลงมือทำ
14.การมีชีวิตอยู่กับปัจจุบัน เมื่อจะทำสิ่งใดให้ใส่ใจเอาใจจดจ่อกับสิ่งที่ทำ รวมพลังความคิดลงสู่การกระทำในขณะนั้นไม่ห่วงหน้า พะวงหลัง หรือยึดติดกับอดีต กังวลกับอนาคต แต่มุ่งใจให้เป็นหนึ่งเดียวกับเวลาปัจจุบัน ทำเรื่องใดก็สนใจทุ่มเท มีสมาธิและจดจ่ออยู่กับสิ่งนั้นดังที่ว่า " ถอดหัวใจให้สิ่งที่ทำ
                15.ปลูกฝังอุปนิสัยที่ดี  การที่เราจะมีการเชื่อมั่นศรัทธาในตนเองได้ ก็ต้องฝึกฝน เสริมสร้างและสั่งสมนิสัยที่ดี เช่น เป็นผู้มีความหวังเสมอ พรุ่งนี้ยังมีวันใหม่ให้ก้าวเดิน ความไม่กลัวต่อความลำบาก จิตใจเข้มแข็ง ต่อสู้ กล้าหาญ อดทน ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค เพียรพยายามอย่างสม่ำเสมอ ไม่ประมาท เกิดเป็นคนไม่ควรขลาดกลัว จงเก่งกาจ กล้าหาญชาญชัย

ขอบคุณข้อมูลเพื่อการศึกษา

อาจารย์ณัฐธิดา ศรีราชยา
การศึกษา
                ปริญญาตรี(BS) ภาควิชาวัสดุศาสตร์ สาขาวิทยาศาสตร์พอลิเมอร์และสิ่งทอ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
                ปริญญาโท (MS)Polymer Science The Pretroleum and Petrochemical College Chulalongkorn University


























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น